Soldier In The Army With Sniper Rifle

Thursday, January 29, 2015

สงครามสามสิบปี


          ขึ้นชื่อว่าสงครามคงไม่หนีไม่พ้นความสูญเสียที่เกิดจากความขัดแย้งต่างๆ บางครั้งความขัดแย้งก็เกิดจากความไม่ลงรอยกันทางความคิด ความแตกต่างทางศาสนา การขัดผลประโยชน์ระหว่างประเทศหรือภายในประเทศ บางสงครามนั้นสู้กันไม่ถึงเดือนก็จบ บางสงครามก็ยือเยื้อกันเป็นปี บางครั้งก็เป็นสิบปี ยี่สิบปี หรือสามสิบปีอย่างสงครามหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินเยอรมันเมื่อนานมาแล้ว

Thirty Years' War

          สงครามสามสิบปี (Thirty Years' War) เกิดเมื่อปีค.ศ. 1618 - ค.ศ. 1648 เป็นสงครามที่ก่อความเสียหายไว้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรปสงครามหนึ่ง สงครามส่วนใหญ่ปะทะกันในดินแดนเยอรมนีและเกือบทุกประเทศในยุโรปตอนนั้นต่างเข้าร่วมสงครามนี้ อีกทั้งสงครามสามสิบปียังเป็นหนึ่งในสงครามที่ยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์สมัยใหม่

พื้นที่ประเทศที่เข้าร่วมสงครามและกลายเป็นสมรภูมิ
สงครามสามสิบปีเป็นสงครามที่ต่อเนื่องมาจากสงครามความขัดแย้งระหว่างฝรั่งเศสกับราชวงศ์ฮับส์บูร์กที่เป็นราชวงศ์ที่ปกครองประเทศสเปนและอิตาลี อีกทั้งยังเป็นราชวงศ์ที่ปกครองในตำแหน่งของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อชิงการเป็นมหาอำนาจในยุโรปและในที่สุดก็บานปลายไปเป็นสงครามที่ไม่มีเหตุผลใดเกี่ยวข้องกับศาสนา
สงครามสามสิบปี เป็นสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างฝ่ายที่นิยมจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งนับถือ ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกกับฝ่ายที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ซึ่งสงครามครั้งนี้ได้แบ่งเป็น 4 ช่วงและแต่ละช่วงมีความหมายของสงครามต่างกันออกไป กล่าวคือ ในช่วงแรกของสงคราม เป็นเรื่องความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างรัฐต่างๆในเยอรมันอย่างชัดเจน แต่ทว่าช่วงที่ 2 3 และ 4 ของ
สงครามกลายเป็นเรื่องระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ 4 เป็นช่วงที่ฝรั่งเศสที่เป็นประเทศที่นับถือนิกายโรมันคาทอลิกเข้าร่วมสงครามในฐานะผู้สนับสนุนฝ่ายโปรเตสแตนท์ จึงจะเห็นได้ว่าสงครามสามสิบปีไม่ได้มีแค่เรื่องความขัดแย้งทางศาสนาแต่ยังโยงใยไปถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย

Monday, January 26, 2015

สงครามร้อยปี

          สงครามร้อยปี (Hundred Years' War) คือความขัดแย้งหลายครั้งระหว่างสองราชวงศ์ ระหว่างค.ศ. 1337 ถึง ค.ศ. 1453 เพื่อแย่งบัลลังก์ฝรั่งเศส นำไปสู่สงครามระหว่างสองประเทศ คือ อังกฤษ และฝรั่งเศส ในสงครามอังกฤษสามารถบุกยึดฝรั่งเศสได้ทั้งประเทศเป็นส่วนใหญ่ แต่ในตอนท้ายฝรั่งเศสก็สามารถพลิกกับขึ้นมาเอาชนะอังกฤษและขับอังกฤษออกจากฝรั่งเศสได้


สาเหตุแห่งสงคราม
          ในค.ศ. 1324 พระเจ้าชาลส์ที่ 4 แห่งฝรั่งเศส สิ้นพระชนม์โดยไม่มีทายาท ทำให้ราชวงศ์กาเป-เชียงสายตรงต้องสิ้นสุดลง พระเจ้าเอ็ดวาร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษทรงเป็นพระนัดดาของพระเจ้าชาลส์ที่ 4 เป็นพระญาติชายที่ใกล้ชิดที่สุดทางสายพระโลหิต จึงเป็นผู้มีสิทธิจะครองบัลลังก์มากที่สุด แต่ขุนนางฝรั่งเศส ไม่ต้องการให้กษัตริย์อังกฤษมาปกครองฝรั่งเศส จึงอ้างกฎบัตรซาลลิคของชนแฟรงก์โบราณว่า การสืบสันติวงศ์จะต้องผ่านทางผู้ชายเท่านั้น และให้ฟิลิปเคานท์แห่งวาลัวส์ ที่สืบเชื้อสายจากพระเจ้าฟิลิปที่ 3 ขึ้นครองราชย์เป็น พระเจ้าฟิลิปที่ 6 เป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์วาลัวส์ ซึ่งเป็นสาขาของราชวงศ์กาเปเชียง ใน ค.ศ. 1331 พระเจ้าเอ็ดวาร์ดที่ 3 ทรงยินยอมที่จะสละสิทธิ์ในบัลลังก์ฝรั่งเศสทั้งมวลแต่ครองแคว้นกาสโคนี
          ในค.ศ. 1333 พระเจ้าเอ็ดวาร์ดทรงทำสงครามกับสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับฝรั่งเศส ตามสัญญาพันธมิตรเก่า (Auld Alliance) ทำให้พระเจ้าฟิลิปที่ 6 ทรงเห็นเป็นโอกาสจึงนำทัพบุกยึดแคว้นกาสโคนี แต่พระเจ้าเอ็ดวาร์ดทรงปราบปรามสกอตแลนด์อย่างรวดเร็วและหันมาตอบโต้พระเจ้าฟิลิปได้ทัน

Jeanne d'Arc วีรสตรีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด

          จากหญิงสาวชาวบ้านธรรมดากลายไปเป็นวีรสตรีที่ช่วยฝรั่งเศสให้รอดพ้นจากกองทัพอังกฤษ…  จากวีรสตรีผู้เด็ดเดี่ยวกลายเป็นแม่มดเพราะความเข้าใจผิด… และจากแม่มดที่ถูกเผาทั้งเป็นกลายไปเป็นนักบุญที่คนฝรั่งเศสยกย่อง… 

โจนออฟอาร์ค  (Joan of Arc) 

          ฌาน ดาร์ก หรือ โจนออฟอาร์ค  (Joan of Arc) เกิดที่เมือง ดอมเรมี ในแถบที่ราบของแคว้นลอร์เรน ทางภาคตะวันออกของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในขณะนั้น ได้ถูกยึดครองโดยประเทศอังกฤษ และเธอถือกำเนิดในครอบครัวชาวนาตระกูล "ดาร์ค" ซึ่งมีหลักอาชีพเป็นเกษตรกร เธอเป็นคนที่เคร่งเรื่องศาสนาเป็นอย่างมาก โดยที่ทุกวันเสาร์ เธอจะชอบไปสวดมนต์ที่โบสถ์แบร์มงต์ ใกล้กับเมืองเกรอซ์ เป็นประจำ

Thursday, January 22, 2015

เริ่มต้นสงครามประกาศอิสรภาพอเมริกา

          ผลที่ตามมาจากสงครามเจ็ดปีนั้นนอกจากจะทิ้งความสูญเสียไว้มากมายทั้งทางด้านประชาชน การเงิน กำลังทหารและกองทัพแล้ว สงครามเจ็ดปีนั้นยังคงทิ้งความขัดแย้งไว้ในพื้นที่ต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่เป็นต้นเรื่องอย่างอังกฤษ ปรัสเซีย ฝรั่งเศส และออสเตรีย หรือประเทศอาณานิคมที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษและฝรั่งเศส อย่างสหรัฐอเมริกา ที่อยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร ก็ได้รับผลกระทบมาเช่นกัน
         
          ในตอนแรกก่อนที่จะถูกค้นพบนั้น อเมริกามีชนเผ่าดั้งเดิมคืออินเดียนแดง มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งพืชพรรณนานาชนิด ป่าไม้ ทุ่งหญ้า สัตว์ป่า ทองคำ 


แหล่งทรัพยากรต่างๆในอเมริกา
          แต่ในปีค.ศ.1492 คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสได้เดินเรือและค้นพบทวีปอเมริกาโดยบังเอิญ ทำให้บรรดาประเทศนักล่าอาณานิคมในยุโรปอย่างสเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส และอังกฤษ เริ่มทยอยเข้ามารุกรานชาวพื้นเมืองดั้งเดิม และเข่นฆ่าพวกเขาเพื่อยึดดินแดน สเปนและโปรตุเกสไปปักธงที่ทางอเมริกาใต้ ทำให้อังกฤษและฝรั่งเศสต้องทำการแย่งชิงพื้นทางเหนือแทน ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นอีกชนวนเหตุของสงครามเจ็ดปี 
          ชาวอังกฤษเริ่มทยอยอพยพไปสร้างอาณานิคมในอเมริกาเหนือตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 17 คนส่วนมากที่อพยพไปก็คือพวกชนชั้นล่างในสังคมที่เชื่อว่าจะสามารถไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อเมริกาได้ แต่ก็มีพวกนายทุนรายใหญ่ที่เข้าไปลงทุนเพื่อกอบโกยผลประโยชน์อยู่เหมือนกัน

Saturday, January 17, 2015

สงครามเจ็ดปีคืออะไร?


            


            เคยได้ยินอาณาจักรที่ชื่อ ปรัสเซีย กันหรือเปล่า? หลายคนอาจงงว่าอะไรคือ"ปรัสเซีย" เขียนผิดหรือเปล่า รัสเซียไม่ใช่หรอ? จะบอกว่าไม่ได้เกี่ยวกันเลย ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ปรัสเซียคือเยอรมันเก่า ความสัมพันธ์ก็คงคล้ายๆธนบุรีกับรัตนโกสินทร์
            ในตอนแรกปรัสเซียเป็นแค่ดินแดนเล็กๆของขุนนางคนหนึ่ง แต่เพราะ สงครามเจ็ดปี ทำให้อาณาจักรเล็กๆอย่างปรัสเซียกลายเป็นมหาอำนาจในยุโรปพอๆกับฝรั่งเศสและออสเตรียในขณะนั้น(อาจจะยิ่งใหญ่กว่าฝรั่งเศสกับออสเตรียด้วยซ้ำไป)
            แล้ว สงครามเจ็ดปี คืออะไรอีกล่ะ? บทความนี้จะมอบความตอบของคำถามนั้นให้แก่คุณเอง



            สงครามเจ็ดปี(Seven Year’ War) เกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1756-1763 นับเป็นสงครามระหว่างประเทศมหาอำนาจในยุโรปที่ใหญ่ที่สุด คือ ฝั่งภาคีพันธมิตรอันประกอบด้วยออสเตรีย รัสเซีย ฝรั่งเศส กับฝั่งปรัสเซียและอังกฤษ 
ผู้ร่วมในสงคราเจ็ดปีทุกฝ่ายน้ำเงิน: บริเตนใหญ่, ปรัสเซีย, โปรตุเกต
พันธมิตรเขียว: ฝรั่งเศส, สเปน, ออสเตรีย, รัสเซีย, สวีเดน และพันธมิตร

            ในแคนาดา, ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร คำว่า “สงครามเจ็ดปี” หมายถึงความขัดแย้งในทวีปอเมริกาเหนือ ที่รวมทั้งความขัดแย้งในยุโรปและเอเชียด้วย ในสหรัฐอเมริกาสงครามส่วนที่เกิดขึ้นที่นั่นมักจะเป็นที่รู้จักกันว่า “สงครามฝรั่งเศส-อเมริกันอินเดียน” แต่นักวิชาการและนักประวัติศาสตร์หลายท่านในสหรัฐอเมริกาเช่นเฟรด แอนเดอร์สันเรียกสงครามนี้ตามที่เรียกกันในประเทศอื่นว่า “สงครามเจ็ดปี” ไม่ว่าสงครามจะเกิดขึ้นที่ใด ในควิเบคความขัดแย้งนี้บางครั้งก็เรียกว่า “La Guerre de la Conquête” ที่แปลว่า “สงครามแห่งการพิชิต” ส่วนในอินเดียก็เรียกว่า “สงครามคาร์เนติค” (Carnatic Wars) ขณะที่การต่อสู้ระหว่างปรัสเซียและออสเตรียเรียกว่า “สงครามไซลีเซียครั้งที่ 3”

Thursday, January 15, 2015

การปฏิวัติฝรั่งเศส (French Revolution)

           
           Eh-eh-o eh-o I was left to my own devices พอได้ยินท่อนนี้ก็รู้เลยว่าคือเพลงอะไร แน่นอนค่ะเป็นเพลง Pompeii ของวง Bastille ที่ทุกคนน่าจะชอบและรู้จักกันดี พอพูดถึงคำว่า Bastille แล้ว นอกจากชื่อวงที่ได้มากจากวันเกิดของนักร้องนำทรงผมเฟี้ยวฟ้าวแล้ว ย่อมนึกถึงวันชาติฝรั่งเศส เอาหล่ะค่ะ วันนี้เราจะมาพูดถึงการปฏิวัติฝรั่งเศส แล้วเกี่ยวกับคำว่า Bastille อย่างไร มาติดตามกันเลยค่ะ


            การปฏิวัติฝรั่งเศส Révolution française เป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ยุโรปที่ส่งผลต่อ การปกครองในหลายๆประเทศ โดยการปฏิวัติฝรั่งเศสเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1789 – 1799 โดยระบอบเก่าของฝรั่งเศสคือ ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ถูกโค่นล้มโดนประชาชนชั้นกลาง

สาเหตุของการปฏิวัติ
            การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุสาหกรรม การใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยโดยราชสำนัก การใช้ค่าใช้จ่ายไปกับการทำสงครามในต่างประเทศ การรับอิทธิพลทางความคิดเรื่องระบอบการปกครองจากต่างประเทศ การแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจที่ผิดจุดเช่นการเพิ่มภาระภาษีให้กับฐานันดรที่ 3 แต่ยังคงละเว้นฐานันดรที่ 1 และ 2 ซึ่ง ฐานันดรที่ 1 คือ พระ ฐานันดรที่ 2 คือ ขุนนาง ฐานันดรที่ 3 คือประชาชนทั่วไป เพราะเหตุที่มีอภิสิทธิชนอย่างฐานันดร 1และ2 ทำให้เกิดความแตกต่างของชนชั้นเป็นอย่างมาก 

การปฏิวัติ
  ในปี ค.ศ. 1789 พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ทรงเรียกประชุมสภาฐานันดรขึ้น แต่เกิดปัญหาขึ้นพราะใช้ระบบนับคะแนนเป็นฐานันดร 1 ฐานันดร 1 เสียง แต่ไม่ยุติธรรม เพราะการลงคะแนนแบบนี้ทำให้ฐานันดรที่ 1 และ 2 เหนือกว่าฐานันดรที่ 3 จนมีข้อเสนอให้มีการนับคะแนนเป็น 1 คน 1 เสียง ข้อเสนอนี้ถูกปฏิเสธ กลุ่มฐานันดรที่ 3 ที่ไม่พอใจจึงเดินออกจากสภาและไปก่อตั้งสภาสมัชชาแห่งชาติขึ้นมา พระเจ้าหลุยส์เสนอว่าให้จัดการประชุมอีกครั้งในวันที่ 20 มิถุนายน แต่เหล่าสมัชชาแห่งชาติไม่เข้าร่วมด้วย แล้วไปจัดตั้งการประชุมของตนที่บริเวณใกล้เคียง คือ สนามเทนนิส ที่แท้จริงแล้วเป็นสนามแฮนด์บอล พวกเขาปฏิญาณตนว่าจะไม่ยุบสภานี้จนกว่าจะได้รัฐธรรมนูญ หนึ่งในนั้นมีบุคคลที่ชื่อว่า มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์



            ต้นเดือนกรกฎาคม ทหาร 30,000 นาย ได้วางกองกำลังรอบกรุงปารีสจากคำสั่งของพระเจ้าหลุยส์ ประชาชนได้จัดตั้งกองกำลังป้องกันชาติเพื่อความปลอดภัยของตนเอง ก่อเหตุจลาจลแล้วปล้นอาวุธ พวกเขามีอาวุธ แต่ขาดดินปืน แน่นอนคือ คุก Bastille สถานที่เก็บดินปืน

สงครามแย่งชิงราชสมบัติออสเตรีย จุดเริ่มต้นที่นำไปสู่สงครามเจ็ดปี

   
         จากการที่พระโอรสองค์โตในสมเด็จพระจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 6 (ค.ศ. 1685-1740) แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และออสเตรียสิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทำให้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 6 มีดำริที่จะให้เจ้าหญิงมาเรีย เทเรซ่า พระราชธิดาของพระองค์ครองราชย์ต่อ พระองค์ได้เตรียมการมานาน โดยให้การศึกษาแก่พระธิดาองค์นี้ และโปรดให้เขียนกฤษฎีกาอนุมัติกฎมณเทียรบาลฉบับพิเศษ ที่จะทำให้ธิดาคนโตสามารถสืบราชสมบัติต่อจากผู้เป็นพ่อได้
เจ้าหญิงมาเรียเทเรซ่า
         กษัตริย์หลายพระองค์ในยุโรปตอนเหนือก็เห็นด้วย แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่พอใจ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ พระเจ้าเฟรเดอริคที่ 2 แห่งปรัสเซีย ที่คัดค้านอย่างรุนแรง จนนำมาซึ่งสงครามแย่งชิงราชสมบัติออสเตรีย
         ต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่าได้อภิเษกกับเจ้าชายฟรานซิสแห่งลอร์แรน เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 1736 ในขณะที่มีพระชนมพรรษาเพียง 19 พรรรษา หลังจากนั้น 4 ปี พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 6 ได้เสร็จสวรรคต พระนางมาเรีย เทเรซ่าต้องการให้พระสวามีร่วมปกครองออสเตรียด้วย จะได้มีสิทธิ์ขึ้นเป็นจักรพรรดิเเห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ใช่ว่าจะราบรื่น เพราะมีคนอ้างสิทธิ์ในการขึ้นครองบัลลังก์แห่งออสเตรียซึ่งก็คือ เจ้าชายชาร์ลส์ อัลเบิร์ด แห่งบาวาเรีย จากการที่พระองค์ได้อภิเษกกับพระธิดาในจักรพรรดิโจเซฟที่ 1 (พระเชษฐาของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 6) โดยพระองค์ได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศส
         ส่วนอีกด้านหนึ่งพระเจ้าเฟรเดอริคที่ 2 แห่งปรัสเซียทรงเล็งเห็นแล้วว่าออสเตรียนั้นโดดเดี่ยวไร้พันธมิตร เพราะมีแต่คนจ้องหวังผลประโยชน์จากช่วงพลัดเปลี่ยนกษัตริย์ นำพันธมิตรบุกโจมตีไซลีเชียในเดือนธันวาคมปี ค.ศ. 1740 และยึดได้ในปี ค.ศ.1741