Soldier In The Army With Sniper Rifle

Monday, January 26, 2015

Jeanne d'Arc วีรสตรีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด

          จากหญิงสาวชาวบ้านธรรมดากลายไปเป็นวีรสตรีที่ช่วยฝรั่งเศสให้รอดพ้นจากกองทัพอังกฤษ…  จากวีรสตรีผู้เด็ดเดี่ยวกลายเป็นแม่มดเพราะความเข้าใจผิด… และจากแม่มดที่ถูกเผาทั้งเป็นกลายไปเป็นนักบุญที่คนฝรั่งเศสยกย่อง… 

โจนออฟอาร์ค  (Joan of Arc) 

          ฌาน ดาร์ก หรือ โจนออฟอาร์ค  (Joan of Arc) เกิดที่เมือง ดอมเรมี ในแถบที่ราบของแคว้นลอร์เรน ทางภาคตะวันออกของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในขณะนั้น ได้ถูกยึดครองโดยประเทศอังกฤษ และเธอถือกำเนิดในครอบครัวชาวนาตระกูล "ดาร์ค" ซึ่งมีหลักอาชีพเป็นเกษตรกร เธอเป็นคนที่เคร่งเรื่องศาสนาเป็นอย่างมาก โดยที่ทุกวันเสาร์ เธอจะชอบไปสวดมนต์ที่โบสถ์แบร์มงต์ ใกล้กับเมืองเกรอซ์ เป็นประจำ

          เมื่อเธออายุได้ 17 ปี ในวันหนึ่ง เธอบอกว่า เธอได้ยินเสียงจากพระเจ้าที่สั่งให้เธอนั้นได้เป็นผู้ที่สามารถปลดปล่อยประเทศฝรั่งเศสออกจากกองทัพของประเทศอังกฤษ ในช่วงของการเกิดเหตุการณ์ของสงครามร้อยปี 


          เธอจึงได้ทำการแต่งกายกลายเป็นนักรบชายในสมัยนั้น และได้นำกองทัพของประเทศฝรั่งเศส      ออกรบตอบโต้กับกองทัพของประเทศอังกฤษที่เข้ามารุกราน โดยที่เธอเป็นแม่ทัพ จนเธอนั้นสามารถปลดปล่อยเมือง ออร์เลอออง (Orleans) ซึ่งได้อิสรภาพ และได้ชัยชนะในที่สุด เธอสามารถเอาชนะทัศนคติของนายทัพผู้ที่มีประสบการณ์มากได้ และสามารถยุติการล้อมเมือง ได้เพียงภายใน 9 วัน หลังจากนั้น การได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดหลายครั้งของเธอ ก็นำไปสู่การราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 7 ที่แรงส์ (Reims) ซึ่งเป็นวิธีการเพื่อพยายามยุติข้อขัดแย้งของสิทธิในการครองราชบัลลังก์ของฝรั่งเศส
เธอจึงได้รับฉายาว่าเป็น สาวพหรมจรรย์แห่งออร์เลออง ซึ่งก็ได้ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์เกี่ยวกับทางด้านประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศส

        ในตอนสุดท้ายนั้น เธอถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการเผาทั้งเป็น ขณะที่เธอมีอายุเพียง 19 ปี หลังจากที่เธอถูกกองทัพอังกฤษจับตัวได้ โดย จอห์น ออฟ แลนแคสเตอร์ (John of Lancaster, 1st Duke of Bedford) ได้กล่าวหาว่าเธอเป็นพวกนอกรีตและเป็นแม่มด ในวันประหารชีวิต เธอขอถือไม้กางเขนในขณะที่กำลังจะถูกเผาทั้งเป็น และเมื่อถึงเวลาที่เปลวเพลิงกำลังลุกเผาเธออยู่นั้น เธอก็ได้ตะโกนคำว่า “ Jesus ” ซึ่งเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกไฟเผาร่างและหายไปในกองเพลิง แต่อย่างไรก็ตาม การประหารชีวิตเธอในครั้งนั้น ก็ทำให้ผนึกใจชาวฝรั่งเศสให้เป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อสู้กับกองทัพของประเทศอังกฤษ จนชนะ และได้อิสรภาพ รวมถึงเอกราช กลับคืนมาสู่ประเทศ 


       
          และเมื่อ 24 ปีหลังจากที่เธอถูกตัดสินประหารชีวิตนั้น พระสันตปาปา แคลลิกตัสที่ 3 ได้นำคดีของเธอขึ้นมาไต่สวนอีกครั้งและสรุปว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ จากนั้นได้ประกาศให้การตัดสินลงโทษเธอเป็นโมฆะ และในปี 2463 พระสันตะปาปาเบเนดิกที่ 15 ได้แต่งตั้งเธอเป็น นักบุญโจนออฟอาร์ค (Saint Joan of Arc) 

          จนถึงในปัจจุบันนี้ นักบุญโจนออฟอาร์ค เธอได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีผู้ปลดปล่อยประเทศฝรั่งเศส และเป็นผู้ที่มีศรัทธาอย่างมั่นคงต่อพระเจ้า

No comments:

Post a Comment